วิธีการปัจจุบันในการทำเครื่องหมายความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดมีอะไรบ้าง?

 

ปัจจุบันความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดมีวิธีการติดฉลากดังต่อไปนี้ เช่น C20, C10, C5 และ C2 ซึ่งแสดงถึงความจุจริงที่ได้รับเมื่อปล่อยประจุที่อัตราการปล่อยประจุ 20 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง 5 ชั่วโมง และ 2 ชั่วโมง ตามลำดับ หากเป็นความจุที่ต่ำกว่าอัตราการปล่อยประจุ 20 ชั่วโมง ฉลากควรเป็น C20, C20=10Ah แบตเตอรี่ ซึ่งหมายถึงค่าความจุที่ได้จากการปล่อยประจุ 20 ชั่วโมงด้วยกระแส C20/20 เมื่อแปลงเป็น C5 นั่นคือปล่อยประจุที่ 4 เท่าของกระแสที่กำหนดโดย C20 ความจุจะอยู่ที่ประมาณ 7Ah เท่านั้น จักรยานไฟฟ้าโดยทั่วไปจะปล่อยประจุใน 1~2 ชั่วโมงด้วยกระแสสูง และแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดจะปล่อยประจุใน 1~2 ชั่วโมง (C1~C2) , ใกล้เคียงกับ 10 เท่าของกระแสที่กำหนด ดังนั้นพลังงานไฟฟ้าที่สามารถจ่ายได้จริงจึงมีเพียง 50% ~ 54% ของความจุการคายประจุของ C20 เท่านั้น ความจุของแบตเตอรี่ถูกทำเครื่องหมายไว้เป็น C2 ซึ่งเป็นความจุที่ทำเครื่องหมายไว้เมื่อคายประจุ 2 ชั่วโมง หากไม่ใช่ C2 ควรทำการคำนวณเพื่อให้ได้เวลาการคายประจุและความจุที่ถูกต้อง หากความจุที่ระบุโดยอัตราการคายประจุ 5 ชั่วโมง (C5) อยู่ที่ 100% หากเปลี่ยนเป็นการคายประจุภายใน 3 ชั่วโมง ความจุจริงจะอยู่ที่ 88% เท่านั้น หากคายประจุภายใน 2 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 78% หากคายประจุภายใน 1 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 5 ชั่วโมง 65% ของความจุต่อชั่วโมง ความจุที่ทำเครื่องหมายไว้ถือว่าเป็น 10Ah ดังนั้นตอนนี้จึงสามารถรับพลังงานจริง 8.8Ah ได้ด้วยการคายประจุ 3 ชั่วโมงเท่านั้น หากคายประจุภายใน 1 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 6.5Ah และสามารถลดอัตราการคายประจุได้ตามต้องการ กระแสไฟคายประจุ >0.5C2 ไม่เพียงแต่ลดความจุลงมากกว่าที่ฉลากระบุเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบในระดับหนึ่งด้วย ในทำนองเดียวกัน สำหรับแบตเตอรี่ที่มีความจุ C3 ที่กำหนดไว้ กระแสไฟคายประจุคือ C3/3 นั่นคือ ≈0.333C3 หากเป็น C5 กระแสไฟคายประจุควรเป็น 0.2C5 เป็นต้น

 

แบตเตอรี่


  • ก่อนหน้า:
  • ต่อไป:

  • เวลาโพสต์: 27 ต.ค. 2564